ต้น แมงดา หรือ ต้น ทำมังเป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นฉุนเหมือนแมงดา ใช้ใบ ฉีกใส่แกงเผ็ดหรือแกงป่าฟักทอง ทานกับข้าวราดแกง ใบ เปลือกต้นและผลแก่ใช้ตำน้ำพริกเหมือนน้ำพริกแมงดา ใบอ่อนและดอกอ่อนรับประทานเป็นผัก ยอดอ่อนลวกนำไปจิ้มกับน้ำพริก จิ้มกะปิกิน รสชาติ ฝาด มันร้อนและอมขมเล็กน้อย มีกลิ่นคล้าย แมลงดานา สรรพคุณทางยา เปลือก ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อและจุกเสียด ขับลม บำรุงประสาท มีกลิ่นคล้ายแมงดาตัวผู้ ทำน้ำพริกแมงดามังสาวิรัตได้ ส่วนที่เป็นพิษ ไม่มี ประโยชน์ใช้สอย ลำต้นแก่ใช้แปรรูปทำบ้านเรือน ปลวก มอดไม่กิน ความเชื่อ นิยมปลูกตามบ้านเรือน ถือเป็นไม้มงคล(ธรรมมัง)มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ต้นที่บ้านปลูกใส่กระถางใหญ่ ใบชักหดต้น ทำมังเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข ทำมังพบกระจายในเขตร้อนและ กึ่งร้อนของเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอเมริกา ส่วนใหญ่จะขึ้น อยู่ตามที่ชื้นในหุบเขา ตามริมลำธาร ในป่าดงดิบจนถึงในป่าพรุ แต่ไม่ค่อย พบในป่าบนภูเขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 30-44 เมตร โตค่อนข้างช้า ใบแก่จะฉุนและเผ็ดมากกว่าใบอ่อน เนื้อไม้แข็งมีกลิ่นฉุน นิยมนำไม้มาทำสากและใช้ในการก่อสร้างทั่วไป ต้นที่มีขนาดใหญ่สามารถนำมาเลื่อยทำไม้กระดานได้ ปัจจุบัน ถูกตัดทำลายจนเกือบสูญพันธุ์ จากการที่ต้นทำมังมีกลิ่นแมงดาอยู่ในส่วนของใบ เปลือกลำต้น และเนื้อไม้ ชาวบ้านในภาคใต้ จึงนิยมนำใบอ่อนมาทำเป็นผักใช้ผสมลงใน แกงเลียง เพื่อให้มีกลิ่นฉุนของแมงดาติดอยู่ เมื่อนำใบแก่มาย่างไฟ แล้วตำผสมลงในน้ำพริกก็จะได้น้ำพริกกลิ่นแมงดา นอกจากนั้นยังมีการนำไม้ทำมัง มาทำสากสำหรับตำน้ำพริกที่ต้องการให้มีกลิ่นแมงดาได้อีกด้วย ต้นทำมังจึงควรเป็นพืชที่ปลูกขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ก่อนที่พืชชนิดนี้จะสูญไปจากเมืองไทย ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=22-06-2009&group=2&gblog=105 |
กระเทียมเถา (อังกฤษ: Garlic vine) เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง ขนาดกลาง มีลำต้นเป็นเถาใหญ่ แข็งแรง สามารถเลื้อยไปได้ไกลมากกว่า 10 เมตร
เถา อ่อนและส่วนยอดจะเป็นสีเขียว ส่วนเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาล มีใบประเภทใบประกอบ มีใบย่อย 1 คู่ ออกตรงข้ามกันตามข้อต้น เป็นไม้ใบบางแต่แข็งกระด้าง รูป ใบรีหรือมน หรือใบรูปไข่ขอบใบเรียบปลายใบและโคนใบแหลมก้านใบสั้นมีมือเกาะอยู่ระหว่างใบ ย่อยแต่ละคู่ในขณะที่ใบยังอ่อน ใบจะมีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นกระเทียมออก ดอกเป็นช่อตามข้อต้น หรือตามโคนกาบใบ ช่อหนึ่งจะมีประมาณ 10-20 ดอก ดอกสีม่วงอ่อน ตรงปากดอกหรือกลางดอกสีค่อนข้างขาวมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเล็กน้อย ลักษณะดอก จะเป็นรูปกรวยปากบาน หรือรูปแตร มีกลีบดอกแยกออกเป็น 5 กลีบ เมื่อดอกบานใหม่ ๆ จะเป็นสีขาว แล้วจะกลายเป็นสีชมพูและสีม่วง เมื่อแก่จัด มีเกสรตัวผู้ภายในดอก 4 อัน สั้น 2 อัน และยาวอีก 2 อัน ในช่วงที่ออกดอก กระเทียมเถาจะทิ้งใบหมด
ปลูกไว้ในบ้าน ปลุกเอาเมล็ดก่อน